อาหารก่อนออกกําลังกาย

อาหารก่อนออกกําลังกาย ควรทานอย่างไร?

การออกกำลังกายเป็นวิธีดูแลสุขภาพที่ดีและการทานอาหารก็สำคัญเช่นกัน ซึ่งวันนี้เรามาดูวิธีเลือกอาหารออกกำลังกายและวิธีทานอาหารก่อนออกกำลังกายกัน

การออกกำลังกายเป็นวิธีดูแลสุขภาพที่ดีอย่างหนึ่งที่ทำให้เราได้รับประโยชน์ตามมาในหลายเรื่องเช่น ผิวพรรณดูดี ร่างกายเผาผลาญได้เยอะขึ้น รูปร่างสมส่วนมากขึ้น เครียดน้อยลง และสุขภาพแข็งแรง แต่อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายให้ได้ประสิทธิภาพนั้นไม่ได้สำคัญที่ประเภทของการออกกำลังกายที่เราเลือกหรือวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องการเตรียมตัวก่อนออกกำลังกายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นั่นก็คือวิธีการทานอาหารก่อนออกกำลังกาย หลายคนมักจะกังวลว่าการทานอาหารก่อนออกกำลังกายจะทำให้มีอาการจุกเสียดระหว่างออกกำลังกายเนื่องจากร่างกายย่อยอาหารไม่ทัน หรือกังวลว่าไม่ทานอาหารก่อนออกกำลังกายแล้วจะไม่มีแรงออกกำลังกายเพียงพอ วันนี้เรามาดูวิธีเลือกอาหารออกกำลังกายและวิธีทานอาหารก่อนออกกำลังกายกันดีกว่าครับ

 อาหารสำหรับคนออกกำลังกายนั้นมีอยู่เยอะมากซึ่งเราสามารถแบ่งออกเป็นได้ 3 กลุ่มหลักๆ ดังนี้

1. กลุ่มคาร์โบไฮเดรต หรือ“คาร์บ”

เมื่อเราทานคาร์โบไฮเดรตเข้าไปจะถูกย่อยเป็นน้ำตาลกลูโคสในเลือด และถูกเปลี่ยนเป็นไกลโคเจนเก็บไว้ในกล้ามเนื้อเพื่อใช้เป็นพลังงานในขณะที่ออกกำลังกายทำให้เรามีแรงที่สามารถออกกำลังกายได้เต็มที่ หากเราไม่ได้ทานอาหารที่จัดอยู่ในกลุ่มคาร์โบไฮเดรต จะทำให้มีอาหารเหนื่อยเร็ว กล้ามเนื้อมีอาการล้า ส่งผลให้ออกกำลังกายได้ไม่นาน วิธีการทานอาหารกลุ่มนี้ขึ้นอยู่กับมวลกายและประเภทการออกกำลังกายของเราโดยปกติแล้วถ้าเป็นการออกกำลังกายทั่วไปแนะนำให้ทานคาร์บโบไฮเดรตอยู่ที่ 5 – 10 กรัมต่อน้ำหนักตัวของเราก็เพียงพอแล้ว ตัวอย่างเช่นเรามีน้ำหนักตัว 60 กก. ก็สามารถทานคาร์บโบไฮเดรตในปริมาณ 300 – 600 กรัม ก่อนออกกำลังกายภายใน 1 – 2 ชม. เป็นต้น หากเราจำเป็นต้องออกกำลังกายนานมากกว่า 90 นาทีเช่นวิ่งมาราธอนหรือไตรกีฬาก็ควรทานล่วงหน้า 24 – 72 ชม.ในปริมาณ 8 – 12 กรัมต่อน้ำหนักตัว อาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต หรือ“คาร์บ”ที่แนะนำมีดังนี้

1.1 ขนมปัง โฮลวีต

เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตชั้นเยี่ยมเลยก็ว่าได้และเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยโปรตีนที่ได้จากธัญพืช ช่วยให้อยู่ท้องและให้พลังงานเยอะ หากเราออกกำลังกายไม่หนักมากก็สามารถทานขนมปัง 1 แผ่นก่อนออกกำลังกายประมาณ 30 นาทีเพื่อให้มีประสิทธิภาพ หากเราออกกำลังกายหนักก็สามารถเพิ่มปริมาณได้แต่ควรเว้นช่วงเวลาที่ทานกับเวลาออกกำลังกายให้ห่างกันมากขึ้นเพื่อให้ร่างกายได้แปลงโบไฮเดรตไปเป็นไกลโคเจน

1.2 ข้าวโอ๊ต

เป็นอาหารออกกำลังกายที่ทานแล้วอยู่ท้องได้นาน อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต วิตามินต่างๆหลายชนิด ช่วยในเรื่องของการลดการดูดซึมไขมันลงสู่หน้าท้อง อีกทั้งยังช่วยให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงในการออกกำลังกาย เราควรทานข้าวโอ๊ตก่อนออกกำลังกายประมาณ 3 ชั่วโมง โดยสามารถทานร่วมกับอาหารอย่างอื่นเพื่อเพิ่มความอร่อยได้

2. กลุ่มโปรตีน

เป็นกลุ่มอาหารที่ช่วยซ่อมแซมมวลกล้ามเนื้อและป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อสลายควรทานก่อนออกกำลังกายประเภทที่มีแรงต้านจะสามารถช่วยลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและยังช่วยให้มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานเพื่อออกกำลังกาย อาหารที่อยู่ในกลุ่มโปรตีนที่แนะนำสำหรับทานก่อนออกกำลังกายมีดังนี้

2.1 กล้วย

เป็นอาหารที่นิยมรับประทานก่อนออกกำลังกายอย่างแพร่หลายเพราะเป็นแหล่งโปรตีนที่หาง่ายและทำให้เรามีแรงออกกำลังกายได้เยอะ กล้วย 1 ลูกมีปริมาณโปรตีนอยู่ที่ประมาณ 6 – 8 กรัมโดยเราสามารถทานกล้วยร่วมกับอาหารประเภทอื่นก่อนออกกำลังกายประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง

2.2 ไข่ต้ม

เป็นแหล่งโปรตีนที่หาง่ายโดยไข่ต้ม 1 ฟองจะมีปริมาณโปรตีนประมาณ 5 – 7 กรัม และวิตามินอื่นๆ พร้อมกับแร่ธาตุอื่นๆอีกมากมาย การรับประทานไข่ต้มนั้นควรระวังเรื่องไข่แดงด้วยเนื่องจากจะส่งผลให้มีคอเรสเตอรอลสูงหากรับประทานในปริมาณที่มากและทำให้อิ่มไวดังนั้นหากต้องการโปรตีนจากไข่ต้มแหล่งเดียวควรลดปริมาณไข่แดงลงและเพิ่มการรับประทานไข่ขาวแทน  

2.3 ปลาแซลมอน

เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนและโอเมก้า 3 อีกทั้งยังเป็นเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำทำให้ย่อยได้ง่าย ควรทานก่อนออกกำลังกายประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังช่วยลดอาการเหนื่อยล้าจากการออกกำลังกายได้อย่างดี

2.4 อกไก่

เรียกได้ว่าเป็นอาหารออกกำลังกายที่มีโปรตีนสูงและคนส่วนใหญ่นิยมเลือกทานกัน เหมาะกับการทานก่อนออกกำลังกายและหลังออกกำลังกายสามารถทานได้ตั้งแต่การต้ม นึ่ง ย่าง หากใครเคี้ยวไม่ไหวสามารถนำไปหมักกับพริกไทยดำจากนั้นนำไปต้มให้สุกแล้วปั่นให้ละเอียดก่อนรับประทาน วิธีนี้จะช่วยให้เราทานง่ายและดูดซึมได้เร็วอีกด้วย โดยวิธีการทานก่อนออกกำลังกายนั้นสามารถทานพร้อมกับข้าวโอ๊ตที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นได้เลย

3. กลุ่มไขมัน

คนส่วนใหญ่จะมีความคิดเชิงลบกับไขมันเช่นการรับประทานไขมันจะทำให้มีรูปร่างอ้วน เป็นสาเหตุของโรคร้ายต่างๆในอนาคต ทำให้ร่างกายเฉื่อย แต่แท้ที่จริงแล้วมีส่วนช่วยในเรื่องการดูดซึมวิตามิน ให้ความอบอุ่นร่างกาย ช่วยผลิตฮอร์โมนเกี่ยวกับเติบโตของร่างกาย ในขณะที่เรารับประทานไขมันดีและรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ สำหรับการทานไขมันเพื่อเป็นอาหารก่อนออกกำลังกายนั้นควรเว้นช่วงเวลาประมาณ 3  – 4 ชั่วโมง และไม่จำเป็นต้องรับประทานในปริมาณที่มากนักเนื่องจากไขมันถูกจัดเป็นกลุ่มอาหารที่ใช้เวลาย่อยนาน อาหารกลุ่มไขมันที่แนะนำมีดังนี้

3.2 อะโวคาโด

เป็นอาหารขึ้นชื่อที่คนส่วนใหญ่เลือกรับประทานเมื่ออยู่ในช่วงไดเอทมีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงโรคหัวใจ รวมไปถึงโรคหลอดเลือดสมอง สำหรับการทานอาหารดังกล่าวก่อนออกกำลังกายเราควรจัดไว้เป็นลำดับสุดท้ายเนื่องจากเป็นอาหารที่มีไขมัน หากรับประทานก่อนจะทำให้อิ่มเร็วและทานอาหารประเภทอื่นได้น้อยลง

3.1 ถั่วเปลือกแข็ง

ได้แก่ ถั่วลิสง อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นแหล่งอาหารที่ประกอบไปด้วยไขมันดีต่อสุขภาพหัวใจ ไม่ควรทานในปริมาณที่มากจนเกินไปเนื่องจากจะทำให้ได้รับแคลลอรี่ในปริมาณมาก และไม่ควรรับประทานถั่วที่ผ่านการคลุกหรืออบเกลือ

3.3 เต้าหู้และถั่วเหลือง

เป็นแหล่งไขมันอิ่มตัวต่ำสามารถรับประทานแทนเนื้อสัตว์ได้และทำให้ลดปริมาณคอเลสเตอรอลที่จะได้รับในแต่ละวันได้เยอะ ส่วนวิธีการทานก่อนออกกำลังกายนั้นสามารถใช้วิธีเดียวกันกับอะโวคาโดได้เลย

การรับประทาน อาหารก่อนออกกำลังกาย นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งกับการออกกำลังกายเพราะหากเรารับประทานได้ถูกวิธีก็จะช่วยให้การออกกำลังกายของเราไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นด้วยซึ่งอาหารสำหรับคนออกกำลังกายนั้นมีอยู่จำนวนมาก ผู้อ่านสามารถเลือกอาหารที่มีอยู่ในตลาดและใช้วิธีประยุกต์ให้เข้ากับความรู้ของตนเองเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการออกกำลังกายได้ และที่สำคัญก่อนออกกำลังกาย 10 – 20 ควรดื่มน้ำประมาณ 240 มิลลิลิตร หรือ 400 – 600 มิลลิลิตรก่อนออกกำลังกาย 1 – 4 ชั่วโมงเพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำขณะออกกำลังกาย

ระบบ CRM ร้านอาหาร

เลือกระบบ CRM ร้านอาหารอย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจ?

ระบบ CRM หรือ Customer Relationship Management เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรวบรวมข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดไว้ในที่เดียว ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และนำไปวิเคราะห์เพื่อวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างแม่นยำ

Read More »
ประโยชน์ของ CRM

5 ประโยชน์ของ CRM ที่มากกว่าแค่การเก็บข้อมูลลูกค้า

ระบบ CRM หรือ Customer Relationship Management เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการข้อมูลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงกลยุทธ์การขายและการตลาดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

Read More »
getfresh

getfresh

getfresh is a leading health-oriented restaurant group based in Bangkok that uses Hato Hub for direct delivery

Read More »

นโยบายความเป็นส่วนตัว

(Customer Privacy Notice)

บริษัท อินดี้ ดิช จำกัด (“บริษัท”) ผู้ให้บริการเช่าใช้ซอฟต์แวร์ Hato Hub (“Hato Hub”) ซึ่งให้บริการระบบจัดการร้านอาหาร ได้แก่ การให้บริการ Hato Store และ Hato Heart รวมถึงการให้บริการอื่นตามที่บริษัทอาจประกาศกำหนด (“บริการ”) รับประกันแก่ท่านว่า บริษัทให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัวและเคารพสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ (“ผู้ใช้บริการ”) ซึ่งหมายความรวมถึง บุคคลผู้เข้าเยี่ยมชมเว็ปไซต์ บุคคลที่ติดต่อมายังบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ และ/หรือเช่าใช้บริการ Hato Hub ดังนั้น บริษัท ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจึงมีจุดประสงค์จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) เพื่อแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ เกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผล และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อการให้บริการของบริษัทผ่าน Hato Hub และการให้บริการอื่น

ขอบเขตนโยบาย และการยอมรับนโยบาย

นโยบายฉบับนี้ใช้สำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ดำเนินการโดยบริษัท ในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการ Hato Hub และบริการอื่นของบริษัทเท่านั้น โดยไม่มีผลใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกอื่นที่บริษัทไม่มีอำนาจควบคุม แม้จะดำเนินการเชื่อมต่อกับการให้บริการหรือเชื่อมจาก Hato Hub ซึ่งสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกดังกล่าว ผู้ใช้บริการต้องศึกษาเกี่ยวกับนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บุคคลภายนอกดังกล่าวแยกจากนโยบายฉบับนี้

เมื่อผู้ใช้บริการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท ติดต่อมายังบริษัทผ่านช่องทางการติดต่อ สื่อสาร และ/หรือตกลงเช่าใช้บริการ Hato Hub ด้วยการสมัครเปิดบัญชีผู้ใช้งานบน Hato Hub ทางบริษัทจะถือว่าผู้ใช้บริการตกลงและยอมรับนโยบายฉบับนี้แล้ว

การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย

ทางบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องและรูปแบบการติดต่อ การให้บริการต่างๆ ของบริษัทที่ให้แก่ผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อของบริษัท โดยการที่ผู้ใช้บริการยังคงมีบัญชีผู้ใช้งานและยังใช้บริการของบริษัทอย่างต่อเนื่องภายหลังจากการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าว บริษัทจะถือว่าผู้ใช้บริการตกลงยอมรับตามนโนบายฉบับปรับปรุงแล้วเสมอ

นิยามศัพท์ 

ภายใต้นโยบายฉบับนี้ 

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลธรรมดาคนหนึ่งนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม และ 

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทมีการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (ก) ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา และ (ข) ตัวแทนผู้มีอำนาจลงนาม หรือบุคคลเกี่ยวข้องอื่นของผู้ใช้บริการที่เป็นนิติบุคคล (เช่น กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม หรือผู้รับมอบอำนาจที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พนักงานหรือตัวแทนของผู้ใช้บริการที่อาจได้รับการแต่งตั้งมอบสิทธิในการใช้ระบบ Hato Hub ในนามของผู้ใช้บริการที่เป็นนิติบุคคลดังกล่าว เป็นต้น) (“ตัวแทน”)

ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย กรณีที่ผู้ใช้บริการนำส่งข้อมูลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องของผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะตัวแทน ให้แก่บริษัท เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ทางบริษัทจะถือว่า ผู้ใช้บริการได้ให้การรับประกันสิทธิในการส่งต่อเปิดเผยข้อมูลของบุคคลภายนอกทั้งหมดให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผลข้อมูลภายใต้นโยบายฉบับนี้แล้ว

แหล่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล

บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ และ/หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจาก 3 แหล่งที่มา ดังนี้ 

  1. ได้รับโดยตรงจากผู้ใช้บริการ ซึ่งนำส่งมายังบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ (ก) การติดต่อสอบถามผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมี ได้แก่ โทรศัพท์ อีเมล corporate website หรือ Social Media (Line, Facebook) (ข) การเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ ด้วยระบบของบริษัทเมื่อผู้ใช้บริการเข้าชมเว็บไซต์  (ค) การที่ผู้ใช้บริการกรอก นำส่งข้อมูล รวมถึงเอกสารแบบ ฟอร์มอื่นใดเพื่อประกอบ และ/หรือเข้าทำสัญญาเพื่อใช้บริการของบริษัท (จ) การที่ผู้ใช้บริการนิติบุคคลนำส่งข้อมูลตัวแทนของตนมายังบริษัทเพื่อการใช้ Hato Hub 
  2. ได้รับจากบุคคลอื่น ซึ่งอาจรวมถึง ผู้ให้บริการภายนอกที่บริษัทอาจว่าจ้างเพื่อช่วยในการให้บริการของบริษัท หรือบุคคลอื่นที่อาจแนะนำและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่บริษัท ทั้งนี้บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงแหล่งที่มาของข้อมูล

ข้อมูลที่มีการประมวลผล

เพื่อการให้บริการ โดยเฉพาะการให้บริการผ่าน Hato Hub บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลทั่วไปและข้อมูลการติดต่อของผู้ใช้บริการ หรือตัวแทน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์ หรือ social media account (LINE, Facebook Account)
  2. ข้อมูลทางเทคนิค (Online Identifier) ของผู้ใช้บริการที่ติดต่อมายังบริษัทผ่านช่องทางเว็บไซต์ ได้แก่ ข้อมูลแหล่งที่ตั้ง รวมถึง IP address และ/หรือ domain name ของผู้ใช้บริการ และหน้าเพจอื่นๆ ที่ผู้ใช้บริการส่งมายังเว็บไซต์ของบริษัท ประเภทและ Version ของ Browser การตั้งค่าเรื่องเขตเวลา (time zone), ที่ตั้ง (location), ระบบปฏิบัติการ, Hato Hubและเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้เข้าเว็บไซต์
  3. ข้อมูล cookies ซึ่งบริษัทมีความจำเป็นต้องใช้ Cookies หลายประเภท เพื่อจุดประสงค์ต่างกันไป โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังต่อไปนี้
  • Strictly Necessary Cookies ซึ่งเป็น Cookies ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานของเว็บไซต์ หรือ Hato Hub และการให้บริการแก่ผู้ใช้งานในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย
  • Functionality Cookies ซึ่งเป็น Cookies ที่ทำหน้าที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์ หรือ Hato Hub เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา font และรูปแบบการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้
  • Performance Cookies ซึ่งเป็น Cookies ที่ทำหน้าที่ประเมินประสิทธิ ภาพในการทำงานแต่ละส่วนของเว็บไซต์ หรือ Hato Hub ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวอาจดำเนินการโดยบริษัทภายนอก ที่จะทำหน้าที่ให้บริการประเมินวิเคราะห์การทำงานของบริษัท และ
  • Advertising Cookies ซึ่งเป็น Cookies ที่ทำหน้าที่ในการจดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเคยเยี่ยมชม รวมถึงลักษณะการใช้เว็บไซต์ หรือ Hato Hub ของผู้ใช้บริการ เพื่อนำเสนอสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของผู้ใช้ บริการ ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวอาจดำเนินการโดยบริษัทภายนอกที่จะทำหน้าที่ให้บริการให้แก่บริษัท
  1. ข้อมูลการทำสัญญา การชำระราคา และ/หรือข้อมูลสำหรับการออกใบกำกับภาษี ซึ่งรวมถึง 
  • ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการจัดทำและลงนามในสัญญา รวมถึงสำเนาเอกสารแสดงตนของผู้ใช้บริการ หรือตัวแทน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น
  • ข้อมูลการชำระเงินค่าบริการเช่าใช้ Hato Hub และข้อมูลสำหรับการชำระค่าสินค้าที่ผู้ใช้บริการจะได้รับจากผู้บริโภคที่ใช้บริการสั่งอาหารไปที่ร้านของผู้ใช้บริการโดยผ่าน Hato Hub ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลหน้าบัญชีธนาคาร รวมถึงหลักฐานการชำระเงินอื่น และอาจรวมถึงข้อมูลสำหรับการออกใบกำกับภาษี (ถ้าจำเป็น)
  1. ข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนของผู้ใช้บริการที่จะเป็นผู้ใช้บริการ Hato Hub ซึ่งอาจรวมถึง ข้อมูลชื่อนามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ที่ต้องใช้สำหรับการลงทะเบียนผู้ใช้งาน ทั้งนี้ผู้ใช้บริการเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงในการกรอกและให้ข้อมูลดังกล่าวให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผล ดังนั้นผู้ใช้บริการต้องให้การรับประกันความถูกต้อง และสิทธิของตนในการนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนดังกล่าวให้แก่บริษัทเพื่อประมวลผล
  2. ข้อมูลธุรกรรมการใช้ Hato Hub ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน เลขรหัสผู้ใช้งาน ข้อมูลการ Log-in และข้อมูลการทำธุรกรรมอื่นที่ผู้ใช้บริการหรือตัวแทนที่ได้รับการลงทะเบียนเปิดบัญชีผู้ใช้งานดำเนินการผ่าน Hato Hub ได้แก่ ข้อมูลการทำคำสั่งดำเนินธุรกรรมทั้งหมด และข้อมูลประวัติธุรกรรมอื่นเพื่อการตรวจสอบ
  3. ข้อมูลการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการและบริษัท ได้แก่ บันทึกข้อมูลสนทนา และการสื่อสาร ผ่านหลากหลายช่องทางการให้บริการของบริษัท เช่น โทรศัพท์ อีเมล corporate website  และช่องทาง Social Media อื่น 
  4. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ที่ผู้ใช้บริการ และ/หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจส่งต่อเปิดเผยระหว่างการติดต่อสื่อสารที่ผู้ใช้บริการอาจมีกับบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงเรื่องการร้องเรียน หรือการให้ความเห็นต่าง ๆ หรือการติดต่อเพื่อรับบริการสนับสนุน ผ่าน Help Desk หรือ Customer Support หรือข้อมูลที่ผู้ใช้บริการอาจนำส่งให้แก่บริษัทเพื่อการเข้าร่วมกิจกรรม หรือ Campaign ต่าง ๆ ของบริษัท

วัตถุประสงค์และระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ และ/หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์และเป็นระยะเวลา ดังนี้:

    1. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา บริษัทต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ เพื่อจุดประสงค์ ดังนี้ 
      • การตอบคำถาม การตอบกลับ หรือการจัดการข้อร้องเรียนหรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ ตามที่ผู้ใช้บริการอาจแจ้งมายังบริษัท รวมถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดต่อกลับเพื่อนำเสนอบริการตามที่ผู้ใช้บริการร้องขอ Demo และการประสานงานเพื่อการเจรจาและทำสัญญาการเช่าใช้ Hato Hub
      • การจัดทำเอกสารธุรกรรมเพื่อการเช่าใช้ Hato Hub ได้แก่ เอกสารสัญญาและเอกสารทางบัญชี รวมถึงการติดต่อประสานงาน และการปฏิบัติสิทธิหน้าที่ที่บริษัทมี ภายใต้เงื่อนไขการให้บริการที่บริษัทประกาศกำหนดสำหรับการเช่าใช้ Hato Hub รวมถึงสัญญาการให้บริการอื่น ระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการ ซึ่งรวมถึง การติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ การเริ่มเปิดบัญชีผู้ใช้งาน การฝึกอบรมการใช้งาน การบำรุงรักษา และ/หรือบริการอื่น ตามที่อาจมีการตกลงกันระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการ
      • การปฏิบัติตามสัญญาอื่นที่ผู้ใช้บริการและบริษัทอาจเป็นคู่สัญญากันเพิ่มเติม หรือเพื่อการดำเนินการตามคำขอของผู้ใช้บริการ รวมถึงการพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมในการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท ที่ผู้ใช้บริการอาจเข้าร่วม
    1. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทต้องดำเนินการ เช่น การจัดทำบัญชีและชำระภาษีของบริษัท 
    2. เพื่อการรักษาประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่กระทบสิทธิเจ้าของข้อมูลเกินสมควร ได้แก่
      • การสร้างและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับผู้ใช้บริการ ซึ่งอาจรวมถึงการวิเคราะห์ สอบสวน จัดการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ Hato Hub และการให้บริการอื่นทั้งหมดของบริษัท การสอบถามความพึงพอใจในการให้บริการ การฝึกอบรม หรือติดตามการให้บริการของพนักงานของบริษัท 
      • การใช้ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ ในการปรับปรุงการทำงานของ Hato Hub การให้บริการ การออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือฟังก์ชั่นการทำงานใหม่ รวมถึงการจัดกลุ่มของผู้ใช้บริการเพื่อประโยชน์ในการวางแผนการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็น และอาจเก็บข้อมูลในลักษณะของสถิติที่ไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้บริการต่อเนื่อง
      • การใช้ข้อมูลภาพถ่ายจาการให้บริการติดตั้ง รวมถึงฝึกอบรมแก่พนักงานของผู้ใช้บริการ รวมถึงข้อมูลคำเห็นและความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ เพื่อจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารอื่นที่บริษัทอาจมี 
      • การเก็บข้อมูลเพื่อประโยชน์การปกป้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ในกรณีเกิดข้อร้องเรียนหรือการต่อสู้ใดระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการ
    1. ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ที่ผู้ใช้บริการให้ความยินยอมเฉพาะ ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของผู้ใช้บริการที่ให้ไว้กับบริษัทได้ตลอดเวลา แต่การถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ดำเนินการก่อนการถอนความยินยอม ทั้งนี้วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความยินยอมรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
      • การใช้ Cookies (นอกเหนือจาก Strictly Necessary Cookies) เพื่อการปรับปรุงเว็บไซต์ หรือ Hato Hub ให้เหมาะ สมกับผู้ใช้บริการต่าง ๆ ได้มากขึ้นตามลักษณะและประเภทของ Cookies ดังกล่าว 
      • การใช้ข้อมูลเพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์หรือทำการตลาดโดยตรงของบริษัท หรือการส่งต่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่พันธมิตร เพื่อการทำการตลาดโดยพันธมิตร เป็นต้น 

ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ซึ่งได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทจะอ้างอิงหลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ดังนี้ (ก) บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้ตลอดระยะเวลาการให้เช่าใช้ Hato Hub หรือตลอดระยะเวลาที่ผู้ใช้บริการยังมีบัญชีผู้ใช้งานใน Hato Hub และตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติคุ้มครองสิทธิของบริษัท ภายใต้อายุความสูงสุด 10 ปี (ข) ตลอดระยะเวลาที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว และ (ค) ตลอดระยะเวลาที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทรับประกันไม่ดำเนินการที่จะกระทบสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเกินสมควร 

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ 

    1. ผู้ให้บริการภายนอกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจรวมถึง (i) ผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการสนับสนุนแก่บริษัท ในการปฏิบัติหน้าที่และใช้สิทธิที่บริษัทอาจมีต่อผู้ใช้บริการ เช่น ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการระบบการชำระเงิน เป็นต้น และ (ii) ผู้ให้บริการที่ปรึกษาของบริษัท ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเฉพาะเท่าที่จำเป็น ตามกรอบเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้จัดทำและลงนามร่วมกับผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าว 

ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทมีการโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปให้แก่ผู้ให้บริการที่ดำเนินกิจการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศ บริษัทจะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ให้มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 

    1. หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่หน่วยงานนั้นตามกฎหมาย ตามคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น โดยบริษัทจะเปิดเผยส่งต่อข้อมูลเฉพาะเพียงเท่าที่จำเป็นตามหน้าที่ดังกล่าวเท่านั้น
    2. บุคคลอื่น ซึ่งผู้ใช้บริการให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งให้บริษัทสามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่บุคคลดังกล่าวได้ 

มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทรับประกันการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ 

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อมายังบริษัทเพื่อดำเนินการขอใช้สิทธิข้างต้นได้ ตามรายละเอียดการติดต่อที่บริษัทได้กำหนดไว้ และบริษัทจะพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของผู้ใช้บริการให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมภายใต้กรอบกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัท อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น 

ช่องทางการติดต่อ

บริษัทยินดีรับคำถาม ข้อร้องเรียน ความเห็นและคำขอใดๆที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ โดยเฉพาะการใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยสามารถติดต่อบริษัทได้ที่: เบอร์โทรศัพท์: 02-114-3234 E-mail: privacy@hatohub.com

Close Bitnami banner
Bitnami